การเปิดตัวครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โรลส์-รอยซ์ แบล็ค แบดจ์ (Rolls Royce Black Badge) ณ งานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38 ประจำปี 2560

การเปิดตัวครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โรลส์-รอยซ์ แบล็ค แบดจ์ (Rolls Royce Black Badge)

ณ งานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38 ประจำปี 2560

Rolls Royce Black Badge เหมาะกับบรรดาลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กล้าฉีกกฎเกณฑ์และขบถต่อความเชื่อแบบเดิมๆ ผู้ซึ่งทุ่มเทเต็มที่ให้กับการทำงานในยามกลางวันแต่ก็ออกไปใช้ชีวิตอย่างสุดเหวี่ยงในยามค่ำคืนด้วย จิตวิญญาณของพวกเขาห้าวหาญไม่ต่างไปจากบรรดานักบุกเบิกอย่าง มูฮัมหมัด อาลี และผู้ก่อตั้งแบรนด์ ชารล์ส โรลส์ ผู้ซึ่งไม่ยึดติดกับธรรมเนียมของสังคมและเลือกที่จะท้าทายทุกขีดจำกัดเพื่อทำให้ความปรารถนาของตัวเองเป็นจริง

“ด้วยความที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เต็มไปด้วยบรรดาเจ้าของกิจการรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ซึ่งเป็นการฉีกกรอบประเพณีเดิมๆ เพื่อสร้างอัตลักษณ์ของตนเองให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก Rolls Royce Wraith Black Badge จึงถือเป็นยนตรกรรมจาก Rolls Royce ที่เพิ่มความแข็งแกร่งและลึกลับยิ่งขึ้นเพื่อตอบโจทย์แนวคิดแห่งยุคนี้” พอล แฮร์ริส ผู้อำนวยการส่วนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Rolls Royce Motor” คาร์สกล่าว

“ลูกค้ากลุ่มนี้เป็นคนที่มีความมั่นใจ มีความต้องการที่ชัดเจน และกล้าที่จะเป็นผู้นำ ดังนั้น Black Badge คือรถบีสโป๊กที่สามารถตอบโจทย์บรรดาเจ้าของรถและนักขับที่โดดเด่น เด็ดเดี่ยว และคล่องแคล่วกลุ่มนี้ได้ดีที่สุดในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งประสบการณ์การขับขี่อันล้ำเลิศแบบ Rolls Royce ได้อย่างสมบูรณ์”

คุณสุนทรพันธ์ เดชะเทศ ผู้จัดการของ Rolls Royce Motor Car Bangkok เผยว่า Black Badge คือนิยามใหม่สำหรับผู้ขับขี่ “ขณะนี้ฐานลูกค้าของ Rolls Royce กว้างขึ้นและมีอายุเฉลี่ยที่ต่ำลงกว่าแต่ก่อน กลุ่มลูกค้าของเราจึงประกอบไปด้วยอภิมหาเศรษฐีรุ่นใหม่ที่เกิดขึ้นจากการทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จสูง”

“เสน่ห์ที่ลึกลับและแข็งแกร่งขึ้นของ Rolls Royce Wraith Black Badge คือสิ่งที่สะท้อนความสำเร็จของบรรดานักธุรกิจรุ่นใหม่เหล่านี้ เปรียบเสมือนการแสดงออกถึงตัวตนที่ชัดเจน และรางวัลสำหรับเส้นทางชีวิตที่พวกเขาได้เลือกแล้ว”

โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยสีดำสนิท

การพลิกโฉมอย่างเฉียบคมจาก Rolls Royce Wraith Black Badge เริ่มตั้งแต่สัญลักษณ์หน้ารถ Spirit of Ecstasy หรือก็คือ ‘Flying Lady’ อันโด่งดังซึ่งยังคงไว้ซึ่งรูปร่าง ลักษณะท่าทาง และวัสดุที่ใช้ผลิต โดยมีการปรับเปลี่ยนเพียงแค่สีสันเพื่อสื่อถึงเสน่ห์อันลึกลับของ Black Badge เทพีองค์นี้ได้ถูกเปลี่ยนโฉมให้กลายรูปปั้นสตรีสีดำเงาวาววับที่แสนจะโฉบเฉี่ยวท่ามกลางบรรยากาศยามค่ำคืนของเมือง

ตราสัญลักษณ์รูปตัว R สองตัวที่บริเวณด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังของ Wraith เปลี่ยนเป็นสีเงินและสีดำ ส่วนอุปกรณ์บนพื้นผิวรถซึ่งผลิตขึ้นจากโครเมียม เช่น ตะแกรงหน้ารถ ชุดครอบฝากระโปรงหลัง ชุดครอบช่องลมเข้า และท่อไอเสียถูกเปลี่ยนเป็นสีเข้มเพื่อให้กลมกลืนไปกับเงาที่ทอดมาจากท้ายรถ

ภายในตัวรถนั้น สีดำยิ่งปรากฏให้เห็นเด่นชัดจากการลงสีและแลคเกอร์เคลือบสีซ้อนทับกันหลายชั้นอย่างพิถีพิถันที่สุดด้วยมือเพื่อให้สีมีความชัดเจน ผลที่ออกมาจึงเป็นสีดำที่มืดสนิทยิ่งกว่าท้องฟ้ายามค่ำคืน ถือเป็นเฉดสีที่เข้มที่สุดที่รถยนต์เคยมีมา

ในฐานะที่บีสโป๊กคือส่วนหนึ่งของ Rolls Royce แน่นอนว่าลูกค้าสามารถเลือกสีภายนอกและภายใน Rolls Royce Black Badge ของตนได้ตามต้องการ

ความหรูหราที่ลึกลับยิ่งขึ้น

ความหรูหราอันลึกลับแผ่ซ่านไปทั่วห้องโดยสารของ Rolls Royce Wraith Black Badge นับตั้งแต่ส่วนกลางของรถซึ่งผลิตจากเส้นใยคาร์บอนที่ร้อยด้วยอลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในยานอวกาศ เส้นอลูมิเนียมที่หนาเพียง 0.014 มม. ถูกร้อยเรียงและยึดเข้าไว้ด้วยกันด้วยเส้นใยคาร์บอนจากกระบวนการที่ต้องอาศัยความพิถีพิถันเป็นอย่างสูง ผลที่ออกมาจึงเป็นวัสดุสำหรับยนตรกรรมระดับซูเปอร์ลักชูรีที่ล้ำยุคที่สุดในโลก

เครื่องหมายอนันต์ที่สื่อถึง ‘ความไร้ขีดจำกัด’ ปรากฏอยู่ทั้งบนหน้าปัทม์ของรถ พนักพิงศีรษะ และปักอยู่บนเบาะที่นั่ง โดยเป็นทั้งสัญลักษณ์ของแนวคิดที่กล้าหาญและท้าทายของ Black Badge หรืออาจสื่อถึงความเป็นปฏิปักษ์ต่อกฎเกณฑ์แบบเดิมๆ ของสังคมก็ได้เช่นกัน ในส่วนของการตกแต่งในขั้นตอนสุดท้ายนั้น ภายในรถจะมีแสงไฟสลัวๆ ที่ส่องมาจากเพดานสีดำลายดาวระยิบระยับ เสมือนแสงของยามสนธยาที่ปกคลุมไปทั่วห้องโดยสาร ซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศที่ดูลึกลับน่าค้นหามากยิ่งขึ้น

ขุมพลังที่สัมผัสได้

เนื่องจาก Rolls Royce Wraith Black Badgeเป็น Rolls Royce ที่ทรงพลังที่สุดในโลกด้วยกำลัง 624 แรงม้า รถรุ่นนี้จึงเป็นยานยนต์ที่ให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่มากที่สุดในบรรดายนตรกรรมรุ่นต่างๆ ในการสร้างสรรค์ Wraith Black Badge ขึ้นมานั้น วิศวกรได้ผสานแรงบิดสูงพิเศษ (+70 นิวตันเมตร) เข้ากับกำลังส่งออกระดับสูงที่มีอยู่ พร้อมระบบกันสะเทือนออกแบบใหม่ทั้งหมด เพลาขับรุ่นใหม่ และชุดเกียร์ 8 สปีดที่ทรงพลังยิ่งขึ้น Rolls Royce ได้สร้างสรรค์ยนตรกรรม Wraith Black Badge ที่คล่องแคล่วและให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่มากกว่าเดิม โดยยังคงมาพร้อมกับเทคโนโลยี Rolls-Royce Magic Carpet Ride เพื่อความสบายในการขับขี่เอาไว้อย่างครบครัน

Rolls Royce Wraith Black Badge ขับเคลื่อนบนท้องถนนผ่านเส้นใยแบบใหม่พิเศษที่ทำจากคาร์บอนและล้ออัลลอยน้ำหนักเบา ซึ่งใช้เวลาในการพัฒนากว่า 4 ปี ประกอบไปด้วยเส้นใยคาร์บอน 22 ชั้นวางซ้อนกันบนแกนทั้งสามและพับทบอีกชั้นหนึ่งจนเกิดเป็น 44 ชั้นที่แข็งแรงและสามารถต้านการสั่นสะเทือนได้ นอกจากนี้ ยังเสริมความแข็งแกร่งด้วยดุมล้อสามมิติที่ผลิตจากอลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอากาศยานและยึดเข้ากับขอบล้อด้วยสายรัดที่ผลิตจากไทเทเนียม

Rolls Royce Wraith Black Badge ที่จะเปิดตัวเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือตัวอย่างรถบีสโป๊กที่ใช้คู่สีที่ฉูดฉาดอย่างสีดำและสีแดงคอนสอร์ทเป็นสีเคลือบรถ ลูกค้าสามารถสั่งจองเพื่อเป็นเจ้าของ Rolls Royce Wraith Black Badge ภายในปี 2560 ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ราคาเริ่มต้นที่ 34.9 ล้านบาท โดยราคาจะขึ้นอยู่กับลักษณะพิเศษที่สั่งทำ