“70 years of the Porsche sports car” 70 ปีแห่งความเกรียงไกรของยนตรกรรมสปอร์ตจาก PORSCHE

70 ปีแห่งความเกรียงไกรของยนตรกรรมสปอร์ตจาก PORSCHE

PORSCHE เปิดศักราชแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบการก่อตั้งด้วยงาน New Year Reception “70 years of the Porsche sports car”

รวดเร็ว พิถีพิถัน เร้าอารมณ์ ตลอดระยะเวลา 70 ปีที่ผ่านมา PORSCHE เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ตัวแทนของ ผู้ผลิตรถสปอร์ตที่ยืนอยู่ในระดับสูงสุดของโลก รถยนต์คันแรกที่ได้รับการสร้างขึ้นภายใต้ชื่อของ Porsche อย่างเป็นทางการ ถูกจดทะเบียนเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 1948 รถคันดังกล่าวคือ 356 โร้ดสเตอร์ (356 Roadster) “หมายเลข 1”และในวันนั้นคือวันที่แบรนด์รยนต์ Porsche ได้ถือกำเนิดขึ้นเช่นเดียวกัน ปอร์เช่ 356 (Porsche 356) คือรถสปอร์ตในฝันของ Ferry Porsche ที่กลายมาเป็นความจริง “วิสัยทัศน์ของเขาในช่วงเวลาขณะนั้น คือ จุดศูนย์รวมของคุณค่านานับประการ ซึ่งคงยังฝังตรึงอยู่กับ Porsche อย่างแนบแน่นตราบจนทุกวันนี้” ข้างต้นคือคำกล่าวของ Oliver Blume ประธานกรรมการบริหาร Porsche AG ระหว่างร่วมงาน New Year Reception ซึ่งจัดขึ้นในพิพิธภัณฑ์ Porsche ประเทศเยอรมนี ท่ามกลางบรรดาแขกผู้มีเกียรติจากแคว้น Baden-Wurrtemberg รวมทั้งสตุ๊ทการ์ท และบุคคลสำคัญทั้งจากแวดวงการเมือง เศรษฐกิจและสังคม ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโอกาสสำคัญ เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบการก่อตั้งบริษัท Porsche ภายใต้ชื่องาน “70 years of the Porsche sports car”

“เป็นธรรมเนียมปฏิบัติคือพันธสัญญาที่สืบสอดกันมา หากปราศจากซึ่งสิ่งที่เปรียบเสมือนคุณค่าหลักเหล่านี้ เราคงไม่อาจยืนหยัดมาจนถึงปัจจุบัน” Blume ได้อธิบายเพิ่มเติม “เราได้ตระเตรียมแผนงานในการส่งเสริมให้เกิดความเป็นเลิศทางเทคโนโลยียานยนต์ ตามแนวทางที่กำหนดขึ้นโดย Ferry Porsche ให้ดำรงอยู่ต่อไปในอนาคต นวัตกรรมพลังขับเคลื่อนอัจฉริยะคือคำตอบอันยอดเยี่ยมของวันข้างหน้าที่กำลังจะมาถึง และแน่นอนว่าเรามีความเชี่ยวชาญในทุกสิ่งที่กล่าวมา ด้วยทีมงานและบุคลากรที่เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างที่ไม่มีใครเหมือน ทำให้เรามั่นใจว่า Porsche จะยังคงเป็นแบรนด์ที่ทรงคุณค่าและเต็มไปด้วยความน่าสนใจ แม้ว่าจะผ่านไปอีก 70 ปี ข้างหน้าหลังจากนี้”

ประวัติความเป็นมาของ Porsche เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 1948 ในยุคสมัยที่ศาสตราจารย์ Ferdinand Porsche อุทิศชีวิตการทำงานของตนเองเพื่อสร้างสรรค์ยนตรกรรมสปอร์ตให้เป็นไปตามความปรารถนา โดยมี Ferry บุตรชายหัวแก้วหัวแหวน รับบทบาทปฏิบัติงานร่วมกันกับพ่อของเขาตลอดเวลา Ferdinand Porsche คือหนึ่งในสุดยอดนักค้นคว้าบุกเบิกนวัตกรรมด้านอุตสาหกรรมยานยนต์มากมายในช่วงต้นศตวรรษปี 1900 เขาได้สร้างรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าผ่านอุปกรณ์ผลิตพลังงานบริเวณดุมล้อ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อว่า Lohner-Porsche ยานพาหนะของเขาคันนี้ได้กลายเป็นพื้นฐานในการพัฒนารถยนต์โดยสารขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel-drive เป็นยานพาหนะคันแรกในโลก และในปีเดียวกัน นั้นเองเขายังได้สร้างรถต้นแบบสำหรับรถยนต์ไฮบริด จากการผสมผสานระบบขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงและ พลังงานไฟฟ้า ในปี 1931 Ferdinand Porsche ได้ดำเนินการก่อตั้งสำนักงานด้านวิศวกรรมของตนเอง โดยใช้ชื่อว่า “Berlin-Rome Car” เป็นสถานที่แห่งนี้เปิดให้เข้าชมในปี 1939 นับเป็นจุดเริ่มต้นของความคิดริเริ่มในการก่อกำเนิดสุดยอดยนตรกรรม ที่มีนามว่า ปอร์เช่ ถึงแม้ว่าในภายภาคหน้าความฝันของเขาจะกลายเป็นความจริงได้ด้วยฝีมือของ Ferry ในปี 1948 เมื่อรถสปอร์ต 356 กำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรก

ผู้สืบทอดตำนานความแรงลำดับถัดมาต่อจาก 356 คือ ปอร์เช่ 911 (Porsche 911) เป็นซึ่งได้รับการออกแบบโดย Ferdinand Alexander บุตรชายของ Ferry Porsche ความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของรถคันนี้คือแรงผลักดันที่ทำให้ Porsche ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตระดับแนวหน้าของโลกได้อย่างไร้ข้อกังขา ด้วยความเป็นเลิศทั้งในเชิงวิศวกรรมและเอกลักษณ์ของการออกแบบ ปอร์เช่ 911 (Porsche 911) เผยโฉมต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกในปี 1963 จวบจนกระทั่งปัจจุบันมันได้ถูกผลิตขึ้นมากกว่า 1 ล้านคัน “ถึงแม้ว่า 911 ได้ก่าวผ่านวิวัฒนาการและเติมแต่งนวัตกรรมยานยนต์ รวมถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยมาอย่างต่อเนื่องยาวนานนับสิบๆ ปีก็ตาม แต่มันยังคงเป็นยานพาหนะหนึ่งเดียวที่สามารถรักษาอัตลักษณ์ประจำตัวอันมีมาตั้งแต่ต้นกำเนิดของ 911 เอาไว้ได้” Blume กล่าวเสริมต่อไปอีกว่า “รถยนต์ Porsche  ทุกคันตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน และแน่นอนว่าในอนาคตข้างหน้าล้วนแล้วแต่พัฒนาขึ้นจากพื้นฐานของรถสปอร์ตคันนี้ทั้งสิ้น ในฐานะเรือธงรุ่นสูงสุดตลอดกาลของปอร์เช่ 911 (Porsche 911) คือรถยนต์ที่เป็นยิ่งกว่าความใฝ่ฝันมันสามารถเอาชนะใจและทำให้นักขับขี่ทั่วมุมโลกหลงเสน่ห์ในตัวมันได้”

ยนตกรรมสปอร์ตในอนาคตของ Porsche ที่กำลังจะตามมา เริ่มต้นจากการมาถึงของ Mission E ยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์แบบคันแรก อัดแน่นด้วยสุดยอดเทคโนโลยีระดับสูงจาก Zuffenhausen ตามแนวคิดในการหลอมรวมเอาความแตกต่างอย่างสุดขั้วให้เป็นหนึ่งเดียว ทั้งในแง่ของการออกแบบที่เร้าอารมณ์ตามสไตล์ Porsche สมรรถนะการขับขี่อันโดดเด่นและอรรถประโยชน์ที่รองรับทุกการใช้งานในชีวิตประจำวัน รถสปอร์ต 4 ประตู 4 ที่นั่ง ติดตั้งขุมพลังขับเคลื่อนที่ให้พละกำลังสูงสุดมากกว่า 600 แรงม้า (440 กิโลวัตต์) พร้อมการขับเคลื่อนด้วยระยะทางมากกว่า 500 กิโลเมตร อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาต่ำกว่า 3.5 วินาที ใช้เวลาเพียง 15 นาทีในการชาร์จพลังงานไฟฟ้าจนถึงความจุ 80 เปอร์เซ็นต์ ปอร์เช่ทุ่มงบประมาณในการพัฒนาโครงการแห่งอนาคตนี้ถึงกว่า 1,000 ล้านยูโร ผลพลอยได้คือการสร้างตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,200 ตำแหน่ง เฉพาะที่สำนักงานใหญ่ใน Stuttgart-Zuffenhausen ซึ่งเป็นสถานที่ที่ใช้ในการผลิต Mission E “Porsche ยังคงเป็น Porsche ตลอดมาและตลอดไป เราคือผู้ผลิตรถสปอร์ตที่เปี่ยมไปด้วยความพิเศษสุด” Blume ทิ้งท้าย

Porsche จัดงานเฉลิมฉลองในวาระแห่งการครบรอบอย่างยิ่งใหญ่ด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจทั่วโลกตลอดปี เริ่มต้นในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ด้วยงาน “The Porsche Effect” ซึ่งจะจัดขึ้น ณ พิพิธภัณฑ์ Petersen Automotive Museum ในนคร ลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ตามมาติดๆ ด้วยนิทรรศการ “70 years of the Porsche sports car” โดยจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 20-31 มีนาคม และเป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์ Porsche Museum ยังได้จัดแสดงนิทรรศการพิเศษเพื่อฉลองการครบรอบดังกล่าวเช่นเดียวกัน ทั้งนี้จะมีขึ้นในวันที่ 9 มิถุนายนและในวันเดียวกันนั้น Porsche ได้เชิญบรรดาแฟนๆ ผู้หลงใหลในรถสปอร์ตเข้าร่วมกิจกรรมที่จัดขึ้นพร้อมกันหลายแห่งทั่วโลกในชื่อว่า “Sports Car Together Day” สำหรับช่วงสุดสัปดาห์ต่อจากนั้นในวันที่ 16-17 มิถุนายน จะเป็นการเปิดบ้านของเหล่าพนักงานภายในโรงงาน Zuffenhausen

เพื่อต้อนรับการมาเยือนของกลุ่มลูกค้า พร้อมกับร่วมงานฉลองที่จะมีขึ้นภายในและบริเวณโดยรอบของพิพิธภัณฑ์ Porsche Museum ในสตุ๊ทการ์ทเฉกเช่นเดียวกันกับบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองให้แก่วาระครบรอบของปอร์เช่ กับงานรวมพลรถสปอร์ตระดับตำนาน “Festival of Speed” ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 12-15 กรกฎาคม ณ สนาม Goodwood ประเทศอังกฤษ และเทศกาลสุดคลาสสิก “Rennsport Reunion” ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาช่วงวันที่ 27-30 กันยายน นอกจากนี้ยังนับเป็นครั้งแรกของ Porsche สำหรับการจัดกิจกรรม “Sound Night” ภายในบริเวณ Porsche Arena เมืองสตุ๊ทการ์ท วันที่ 13 ตุลาคม

ติดตามข้อมูลข่าวสารที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่
https://www.porsche.com/museum/en/

 

เกี่ยวกับ AAS Auto Service

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Porsche อย่าง เป็นทางการ ได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้า Porsche ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการ ทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 12 คน ซึ่งถือว่ามี จำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ Porsche ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 13 ประเทศ สะท้อนให้เห็นถึง ความสำคัญ ในเรื่องการให้บริการหลังการขาย โดย เอเอเอส ทุ่มงบการอบรมวิศวกร ของเราให้มีคุณภาพสูงสุด ตามนโยบาย หลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า “AAS The Name you can Trust” ซึ่งพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Porsche Centre Bangkok  โทร. 02-522-6655

Porsche Centre Pattanakarn  โทร. 02-369-1111

Porsche City Showroom Siam Paragon ชั้น 2 โทร. 02-610-9911