Mazda VISION COUPE

MAZDA ASEAN DESIGN FORUM 2018

โคโดะ : จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวอันงดงาม
Breathing Life Into The Car : การส่งมอบความมีชีวิตชีวาให้กับรถยนต์

Mazda VISION COUPE

เมื่อปี พ.ศ. 2553 มาสด้าได้แนะนำการออกแบบใหม่อย่างเป็นทางการ ภายใต้ปรัชญา โคโดะ ดีไซน์ Soul of Motion หรือ จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวอันงดงาม สำหรับพวกเราชาวมาสด้าแล้วรถยนต์นั้นเป็นมากกว่ายานพาหนะ หรือการเป็นเพียงชิ้นส่วนของเหล็กกล้าเท่านั้น หากแต่เป็นสิ่งสำคัญ คือ การบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ตัวตนของบุคคล ดังเช่น เพื่อน หรือบุคคลในครอบครัว นี่คือเหตุผลสำคัญที่เรากล้าที่จะนำเอา โคโดะ ดีไซน์ มาเป็นปรัชญาในการออกแบบ เพื่อรวมทุกลมหายใจของสรรพสิ่งที่มีชีวิตและกำลังก่อร่างเป็นรูปแบบของรถยนต์ มาสด้าได้ดึงเอาพลังงานที่ค้นพบ แบบเฟรมต่อเฟรมหลอมรวมเข้ากับแนวความคิดสร้างสรรค์ของสิ่งมีชีวิตที่กำลังเคลื่อนไหว ซึมซับพลังงาน และจังหวะเพื่อผนวกรวมเป็นยานพาหนะ การสร้างสรรค์รถยนต์โดยอาศัยพลังของความมีชีวิตชีวาทำให้รถยนต์นั้นมีชีวิตอย่างแท้จริง นี่คือปรัชญาของเราที่ได้รวมวิสัยทัศน์และความตั้งใจที่จะพัฒนา   ยานยนต์ไปสู่อนาคตด้วยวัฒนธรรมที่สืบทอดต่อๆ กันมา

นอกจากนี้เรายังมุ่งมั่นพัฒนาด้านสุนทรียศาสตร์ ในอนาคตเราจะยึดถือคติค่านิยม และความเชื่อลักษณะนี้ในยานยนต์ของมาสด้ารุ่นใหม่ พวกเรายังคงสร้างสรรค์การออกแบบที่เหนือระดับอย่างที่ไม่เคยมีใครเคยเห็นมาก่อน พร้อมกับความมีชีวิตชีวาที่แสดงให้เห็นถึงตัวตนที่แท้จริงของความเป็นมาสด้า พวกเราได้ตั้งเป้าหมายอย่างชัดเจนถึงปรัชญาแห่งการออกแบบที่ได้รวบรวมความงดงามสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งหมายถึงการพัฒนาการเรียนรู้ตั้งแต่สมัยโบราณที่มีความสง่าผ่าเผยแต่แฝงไปด้วยความละเอียดอ่อน รูปลักษณ์ของรถยนต์มาสด้าจึงมิใช่เป็นเพียง “คตินิยมศิลปะญี่ปุ่น” ในความหมายแบบเรียบง่าย แต่คือการอธิบายถึงแก่นแท้ขององค์ประกอบเบื้องต้นจากสุนทรียศาสตร์ญี่ปุ่น รวมถึงการบรรยายความเรียบหรูสง่างามในรูปแบบใหม่

MAZDA ELEGANCE : ความเลิศหรูงามสง่าของมาสด้า

เป้าหมายสำหรับการออกแบบของพวกเราในปีนี้ คือ เอกลักษณ์สไตล์เลิศหรูอันสง่างาม ซึ่งเป็นธีมของการประชุมเกี่ยวกับการออกแบบของมาสด้าในครั้งนี้

ความเรียบหรูสง่างามของมาสด้า ที่ได้แสวงหาเพื่อที่จะแสดงถึงก้าวย่างของสมบัติอันทรงคุณค่า ผ่านทางสุนทรียศาสตร์แบบคลาสสิคสไตล์ญี่ปุ่น หรือความงดงามที่บอบบาง ละเอียดอ่อน หรูหรา และมีความอุดมสมบูรณ์ องค์ประกอบที่มากเกินไปจะได้รับการตัดออกไปอย่างระมัดระวังจนเหลือแต่สิ่งที่สำคัญไว้ สไตล์การออกแบบนี้เกิดจากความสมบูรณ์ที่มากเกินไป ซึ่งจะปรากฏความเรียบง่ายในการออกแบบให้เห็นเสมือนภาพลวงตา ซึ่งก็คือรถยนต์ที่แสดงออกถึงความสง่าผ่าเผย แต่มีเสน่ห์ดึงดูดใจในรถรุ่นใหม่ของมาสด้า พวกเราตั้งใจจะแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภาพลักษณ์ในรถยนต์ยุคใหม่ของมาสด้า

สุนทรียศาสตร์สไตล์ญี่ปุ่นได้แสดงให้เห็นถึงความหรูหราสง่างามที่ไม่สามารถมองหาจากที่ไหนได้ ซึ่งสามารถอธิบายถึงการเจริญเติบโตที่มีความสมดุลอย่างยอดเยี่ยม ความสวยงามแบบไร้ขีดจำกัด ที่ไม่มีสิ่งอื่นใดที่มากจนเกินไป วัฒนธรรมประเพณีของญี่ปุ่นส่วนมากมีพื้นฐานมาจากคอนเซ็ปต์ความเรียบง่ายอย่าง ”less is more” ซึ่งใจความสำคัญมาจากการลดทอน หรือนำองค์ประกอบบางอย่างออกไป เพื่อจะสร้างสรรค์ความสมบูรณ์บนพื้นที่อันว่างเปล่า

รถยนต์มาสด้าในสายการผลิตปัจจุบัน เราได้ดึงเอาความมีพลังแบบเฟรมต่อเฟรมของสิ่งมีชีวิต และเปลี่ยนให้เป็นรูปธรรมเพื่อที่จะสร้างสรรค์รถยนต์แต่ละคันให้มีชีวิตชีวา อย่างไรก็ตามพวกเราได้วางแผนการที่จะแสดงให้เห็นถึงโครงสร้างตัวถังด้านนอกของตัวรถ ผ่านการเล่นกับแสงและเงาสะท้อนที่โล้ดแล่นผ่านบริเวณผิวหน้าของรถ ที่มองเห็นในแต่ละมุมทำให้รถยนต์เสมือนมีชีวิต โดยพันธะกิจของพวกเราคือการประดิษฐ์รูปแบบยานยนต์ให้มีความสวยงามแบบเรียบง่าย การเอาองค์ประกอบที่มากเกินไปออก และเพิ่มลมหายใจของการมีชีวิตให้แก่รถยนต์ผ่านทางแสงเงาที่ไล่ไปตามเส้นสายของตัวรถอย่างประณีตบรรจง

Mazda VISION COUPE 

เมื่อเรามองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์จุดเริ่มต้นของการออกแบบ “อันสง่างามสไตล์มาสด้า” แสดงออกให้พวกเราได้เห็นมาตั้งแต่ยุค ปี พ.ศ. 2503 สำหรับรถสปอร์ตมาสด้า R360 และเมื่อปี 2512 สำหรับมาสด้า Luce เครื่องยนต์โรตารี่ แบบคูเป้ ในยุคที่ทุกคนให้ความสำคัญกับเรื่องของสมรรถนะ จุดดึงดูดความสนใจของรถยนต์โมเดลเหล่านี้ได้สร้างสรรค์ความสวยงามได้อย่างเป็นสัดเป็นส่วน ถึงแม้ว่าการดึงดูดความสนใจของรถยนต์เหล่านี้จะขัดแย้งกับเทรนด์ในช่วงนี้ ซึ่งในท้ายที่สุดสไตล์การออกแบบนี้ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของ “ความสง่างามสไตล์มาสด้า” ในทุกวันนี้

แนวทางของมาสด้าที่มีต่อ Mazda VISION COUPE เป็นการออกแบบโมเดลสำหรับยุคถัดไปที่แสดงให้เห็นถึง “ความสง่างามรูปแบบใหม่” ที่พวกเราได้พัฒนาขึ้นโดยนำเอาประวัติศาสตร์การออกแบบของมาสด้า ชื่อของรถ “คูเป้” คือนัยยะความพิเศษของ “ความสง่างามสไตล์มาสด้า” ซึ่งถือเป็นต้นกำเนิด

Exterior Design : A beauty that’s special to cars :
การออกแบบภายนอก : ความสวยงามที่พิเศษของรถยนต์

สำหรับรถยนต์ในโมเดลใหม่นี้ พวกเราได้แสวงหาและสร้างสรรค์ความสวยงามเพื่อให้รถยนต์มีความพิเศษ ตั้งแต่ภายในห้องโดยสารไปจนถึงด้านหลังมีความเรียบง่ายเป็นเส้นเดียว โดยยึด “Golden Ratio” เป็นหลักจากสัดส่วนของตัวรถคูเป้ที่มีความคลาสสิคอยู่ในตัว ตัวโครงสร้างของตัวรถได้ส่งมอบความรู้สึกถึงเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะสูง พร้อมนัยยะของความทรงพลังผ่านโมเมนตัม

การที่จะสร้างตัวถังของรถยนต์ขึ้นมานั้น สิ่งที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษคือการนำทุกอย่างที่ไม่จำเป็นออกไป เมื่อไม่นานมานี้ รถยนต์ของมาสด้าที่แสดงถึงลีลาและการเคลื่อนไหว ได้ปรับเปลี่ยนไปสู่ความเรียบง่ายแบบสามมิติที่รวบรวมสุนทรียศาสตร์แห่ง “less is more” “เรียบง่าย แต่ดูดี” เข้าไว้ด้วยกัน

เครื่องหมายการค้าของมาสด้า ตั้งแต่ด้านหน้าไปจรดถึงด้านหลัง เส้นแกนหลักอันทรงพลังวิ่งผ่านรถตลอดทั้งคัน ปลุกเร้าให้เห็นถึงรูปลักษณ์และความรู้สึกของเหล็กที่มีความโค้งงอได้ง่าย ด้วยท่วงท่าความเคลื่อนไหวของรถยนต์ที่เป็นศูนย์กลางของเส้นเวกเตอร์ ผลลัพธ์ที่ได้คือความเรียบง่ายอย่างที่สุด แต่ซ่อนเร้นไปด้วยความรวดเร็วปราดเปรียว “รูปแบบการเคลื่อนไหว” ที่เป็นฟีเจอร์ที่มีความโดดเด่นน่าสนใจในโมเดลนี้ การสร้างสรรค์รถคูเป้แบบสี่ประตูในกรอบการทำงานที่เป็นมาตรฐาน พวกเราได้ทุ่มทั้งเวลาและความใส่ใจในส่วนโครงด้านนอกของตัวรถ โดยเฉพาะการเล่นของแสงและเงาที่สาดส่องบริเวณผิวด้านหน้า

The Artistry of Light : ศิลปะของแสง : นิยามใหม่ของความมีชีวิตชีวา

การมอบความมีชีวิตชีวาให้กับรถยนต์ เป็นแกนหลักของคอนเซ็ปต์การออกแบบของ โคโดะ ดีไซน์ โดยเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมีชีวิตชีวาที่สามารถทำให้สัมฤทธิ์ผลผ่านทางตัวเลขในรูปแบบที่หลากหลาย

การนำเอาปรากฏการณ์ความสวยงามตามธรรมชาติผ่านความวิจิตรงดงาม รูปแบบของไฟที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเป็นสุนทรียศาสตร์ที่มีเอกลักษณ์ของศิลปะญี่ปุ่น การใช้ชีวิตแบบบทละครได้รับการสร้างสรรค์จากการเต้นท่ามกลางแสงไฟและเงาซึ่งเปลี่ยนไปในทุกท่วงท่า และทางญี่ปุ่นเองได้ปรับให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่ละเอียดอ่อนนี้ การมีปฏิกิริยาร่วมกันของแสงไฟและร่มเงา รวมถึงความเชื่อในเรื่อง “the beauty of empty space “ความสวยงามที่ว่างเปล่า” ได้ผนวกรวมอยู่บริเวณด้านข้างของโมเดลนี้ การสะท้อนของแสงสะท้อนเหนือบริเวณผิวหน้าที่สาดเป็นเส้นตรงจากการเคลื่อนไหวของรถ การสร้างสรรค์ยานยนต์ให้เปรียบประหนึ่งมีชีวิต ไฮไลท์ส่วนที่เป็นความกว้างของตัวถังนั้นมีความแข็งแรงและความเฉียบคม ตอกย้ำถึงความทรงพลังของรูปร่าง ในขณะที่ตัวรถมีความนุ่มนวลลงมา แต่สง่างามด้วยรูปแบบของไฟที่มีความแวววาว ทำให้รถดูมีพื้นที่ว่างใหญ่ขึ้น การรวมตัวกันของไฟที่มีความแตกต่างได้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของมาสด้าที่มีต่อรถเก๋งคูเป้ แสงไฟที่เต้นระบำไปตามแนวของตัวรถ ได้มอบความสมบูรณ์แบบที่ช่างฝีมือได้ทำการประดิษฐ์ด้วยมือ เป็นเวลาสองปีซึ่งเป็นการพัฒนาสู่อีกขั้นของศิลปะ

Interior Space : การตกแต่งภายใน

สัมผัสธรรมชาติจากการตกแต่งภายในที่โอบกอดผู้ครอบครองอย่างอ่อนโยน

พวกเราตั้งเป้าหมายเพื่อจะสร้างสรรค์ออกแบบการตกแต่งภายในห้องโดยสาร เพื่อให้ผู้ใช้งานรับรู้ถึงความปลอดภัย และเกิดความรู้สึกสะดวกสบายในห้องโดยสารโดยไม่รู้สึกถูกจำกัดในเรื่องพื้นที่ใช้สอย และสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวให้กับรถยนต์และผู้โดยสาร

การออกแบบภายในนี้ เราได้ประยุกต์คอนเซ็ปต์ของ “MA” (หรือคำว่าพื้นที่โล่ง) ฟีเจอร์ที่มีความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น เพื่อที่จะสร้างการตกแต่งภายในที่มอบความรู้สึกที่เชื่อมต่อสื่อสารกับโลกภายนอก

ความประทับใจของพื้นที่เปรียบเสมือนรถเป็นยานพาหนะในการนำทาง การตกแต่งภายในโดยวิสัยทัศน์ของมาสด้า คูเป้ นั้นเหมือนการตกแต่งภายนอก คือ มีความพึงพอใจในระดับสูงสุดและความรู้สึกแบบมีลูกเล่นสามมิติ โดยมีเส้นสายที่ลาดเอียงจากด้านหน้าไปยังด้านหลังอย่างนุ่มนวล แต่ให้ความรู้สึกถึงความเร็ว โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐาน เช่น คอนโซลส่วนกลาง แผงขอบประตูและแผงด้านข้างในส่วนของอุปกรณ์ที่จัดวางไว้อย่างลงตัว โดยไม่มีส่วนใดทับซ้อนกัน เหมือนการสร้างความรู้สึกของ “MA” หรือพื้นที่ที่กว้างขวางภายในรถยนต์ พื้นที่ซึ่งให้การไหลเวียนของอากาศตลอดทั้งคัน และโครงสร้างของตัวรถที่เป็นสามมิติที่ให้ผู้โดยสารรู้สึกถึงความปลอดภัย และมีความรู้สึกสะดวกสบายในห้องโดยสารโดยไม่รู้สึกถึงการถูกจำกัดในเรื่องของพื้นที่

เมื่อเร็วๆ นี้ การออกแบบห้องโดยสารได้คำนึงถึงกระจกบานหน้าที่มีขนาดใหญ่เป็นหลัก ถึงแม้ว่าจะมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่มีความสำคัญสำหรับรถยนต์ในโมเดลใหม่นี้ รวมถึงหน้าจอที่สามารถมองทะลุผ่านได้ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยมาสด้า เป็นการสร้างพื้นที่ภายในและการมองเห็นที่สมบูรณ์แบบเมื่อผู้ขับขี่ต้องการ

Jinba-Ittai : จินบะ-อิไต ความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างรถและผู้ขับขี่

เรามีความรู้สึกว่ารถยนต์และผู้ขับขี่นั้นมีความเชื่อมต่อกันเปรียบเสมือนม้าและพลธนู ดังนั้น คอนเซ็ปต์ จินบะ-อิไต นี้เป็นความคิดที่เป็นหัวใจหลักของการออกแบบรถยนต์มาสด้า ด้วยวิสัยทัศน์นี้ พวกเราได้พิสูจน์กระบวนการที่สามารถนำไปใช้งานได้เพื่อลดช่องว่างระหว่างรถและผู้ขับขี่ เพื่อให้ขับขี่ได้อย่างเป็นธรรมชาติ เสมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย

วิสัยทัศน์ของมาสด้า คูเป้ บริเวณที่นั่งคนขับได้รับการออกแบบให้มีความสมมาตรกัน รวมถึงการบังคับพวงมาลัยให้อยู่กึ่งกลาง และส่วนอื่นๆ ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ซึ่งหมายความว่าผู้ขับขี่จะเป็นแกนหลักของรถอยู่ตลอดเวลา ด้วยอุดมคติแบบจินบะ-อิไต เป็นการปฏิบัติการณ์ที่มีความเป็นธรรมชาติและนำไปสู่การควบคุมต่างๆ ผู้ขับขี่สามารถดูข้อมูลด้วยการสัมผัสคอนโซลส่วนกลาง เสมือนคนขี่ม้าบังคับที่คอของตัวม้า การควบคุมนี้ได้สร้างสรรค์เครื่องยนต์ที่คล้ายมนุษย์ มีความเป็นเอกลักษณ์ที่สอดประสานระหว่างคนขับและตัวรถยนต์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ และนี่คือความหมายของ จินบะ-อิไต คอนเซ็ปต์

เทรนด์ที่มีความโดดเด่นของยุคสมัยใหม่ คือการผลักดันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในทุกสถานการณ์ ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงของวงการรถยนต์ในปัจจุบันเพื่อสร้างค่านิยมใหม่ พวกเรามาสด้าได้ตระหนักว่าสิ่งนี้อาจจะทำให้สัมพันธภาพของมนุษย์และรถยนต์มีความอ่อนแอ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนขับกับยานพาหนะที่ผู้คนกำลังขับขี่ เพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน พวกเราเชื่อว่ารถยนต์เป็นสิ่งสำคัญและอยู่ในตำแหน่งที่มีความใกล้ชิดกับผู้ขับขี่ เสมือนบุคคลในครอบครัว ยิ่งไปกว่านั้น พวกเราตั้งใจที่จะทำงานหนักมากขึ้น เพื่อแสดงให้เห็นถึงความงดงามและความน่าดึงดูดใจเป็นพิเศษของรถยนต์ โดยที่รูปลักษณ์จะสร้างสรรค์ตามวิสัยทัศน์ด้านสุนทรียศาสตร์แบบญี่ปุ่น ความสวยงามและความประณีตรวมไปถึงความอบอุ่น เป็นพื้นที่ที่มนุษย์สามารถรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับยานพาหนะได้อย่างแท้จริง และนี่คือวิสัยทัศน์ที่พวกเราทุกคนตระหนักและเก็บไว้ในใจตลอดเวลาขณะออกแบบรถยนต์

รถยนต์ที่พวกเราคิดไว้เป็นรถที่ออกแบบโดยมาสด้าเท่านั้น โดยแบรนด์ได้รวบรวมเอาวัฒนธรรมของญี่ปุ่นผนวกเข้ากับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับข้าวของเครื่องใช้ การสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่มีรากฐานความคิดเช่นนี้ เป็นสิ่งท้าทายการออกแบบของมาสด้า